ยินดีด้วยแม่! ‘ปวิน’ ประกาศ แต่งงาน ที่กรุงปารีส 31 มี.ค.

ยินดีด้วยแม่! ‘ปวิน’ ประกาศ แต่งงาน ที่กรุงปารีส 31 มี.ค.

ชาวเน็ตร่วมแสดงความยินดี หลังจากที่ ปวิน ประกาศเตรียมเข้าพิธี แต่งงาน ของตนกับแฟนหนุ่ม ที่กรุงปารีสในวันที่ 31 มีนาคม นี้ นาย ปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแจ้งข่าวให้กับผู้ติดตามว่า ตอนนี้ตนอยู่ที่กรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส เพื่อเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 31 มี.ค. นี้

โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ขอแจ้งข่าว ดิชั้นเดินทางมายุโรปครั้งนี้เพื่อมาแต่งงานค่ะ 

จะมีงานพรีเว้ดดิ้งที่กรุงปารีสวันที่ 18 มีนาคม งานเลี้ยงในหมู่เพื่อนที่ปารีสวันที่ 19 มีนาคม และงานแต่งงานจริงวันที่ 31 มีนาคมค่ะ ในที่สุด ดิชั้นขายออกแล้วค่ะ เย้ๆๆๆ” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตหลายคนก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับ แม่ปวิน ที่ขายออกแล้วกันเป็นจำนวนมาก

มงคลกิตติ์ ร่อนจดหมายถึงนายกฯ วอนสั่ง กรมเจ้าท่า ให้ตรวจสอบและ อายัดเรือ โคบอลต์ทุกลำ พร้อมฉษยแสงตรวจสอบคราบเลือดบนเรือด่วน นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอีกครั้ง เกี่ยวกับกรณีคดีของ แตงโม นิดา นักแสดงสาวชื่อดังที่ตกน้ำและเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก

ซึ่ง เต้ มงคลกิตติ์ ได้ระบุว่า “ฝาก ลุงตู่ สั่ง กรมเจ้าท่า ตรวจสอบ-อายัด เรือสปีดโบ๊ท ยี่ห้อ โคบอลต์ สัญชาติ อเมริกา ทุกลำที่ขึ้นทะเบียนในไทย มีน้อยมาก ห้ามหาย ตรวจสอบคราบเลือดบนเรือโดยฉายแสง ด่วน!!!” ทั้งนี้ชาวเน็ตตั้งคำถามว่า ถ้าอายัดตอนนี้จะทันหรือไม่? เพราะหากมีรอยเลือดจริง คนร้ายน่าจะขัดออกไปแล้ว ซึ่งในประเด็นนี้ นาย มงคลกิตติ์ ยืนยันว่า ขัดไม่ออก

ไม่พลาด! ‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นเอกสารร้อง กกต. ปมพบ ‘ทักษิณ’ โทษหนักคือ ยุบพรรคเพื่อไทย

ศรีสุวรรณ เดินทางไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อยื่นเอกสาร ปมพบ ‘ทักษิณ’ ที่ประเทศสิงคโปร์  ชี้เข้าข่ายให้คนนอกครอบงำ โทษหนักคือ ยุบพรรคเพื่อไทย

นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อยื่นหนังสือตรวจสอบพรรคเพื่อไทย กรณี ส.ส. บินเข้าพบนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประเทศสิงคโปร์

โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ไต่สวน กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และอดีตผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง เดินทางจากประเทศไทยไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอาจเข้าข่ายถูกชี้นำ/ครอบงำ ตาม ม.28 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนได้รายงานว่ามีอดีตผู้บริหารและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ราว 6-7 คนในพื้นที่อีสาน นำโดย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรคเพื่อไทยภาคอีสานและอดีตรอง หน.พรรคเพื่อไทย, นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี และประธาน ส.ส.อีสาน และ นางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ เป็นต้น เดินทางจากประเทศไทยไปพบนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เดินทางมาประเทศสิงคโปร์ในช่วง 6-12 มี.ค.65ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนเป็นอย่างมากถึงความเหมาะสมในการไปพบปะกันดังกล่าว เนื่องจากนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนักโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายคดี และหนีไปอยู่ต่างประเทศหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งชอบที่ตัวแทนของประชาชนควรที่จะชี้เบาะแสให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องนำตัวมาลงโทษตามกบิลเมืองมากกว่าที่จะไปพบปะคบค้าสมาคมด้วย

ที่สำคัญ การไปพบปะดังกล่าวพบว่า มีนักธุรกิจเจ้าของโรงสีใหญ่ในอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพี่ชายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย จังหวัดยโสธร และเป็นเพื่อนของอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทยในอีสาน เข้าไปคุกเข่าพนมมือยกมือไหว้นายทักษิณ ชินวัตรอยู่ด้วย

ซึ่งมีข้อสงสัยกันมากว่า อาจเป็นการขออนุญาตจากทักษิณในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยในสมัยหน้าที่จะมีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่อาจต้องพิจารณาผลอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตว่าจะเป็นจริงตามข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร เพราะถ้าบุคคลดังกล่าวได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย การพบปะกันครั้งนี้ในประเทศสิงคโปร์ จะสามารถเชื่อมโยงชี้ชัดถึงน้ำหนักด้วยเหตุและผลตามข้อสงสัยนี้ได้โดยชัดแจ้ง

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องข้างต้นทั้งหมดที่เดินทางไปพบปะนายทักษิณดังกล่าวให้กระจ่างว่า การกระทำเยี่ยงนั้นเข้าข่ายให้บุคคลซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคเพื่อไทยชี้นำ/ครอบงำ ตาม ม.28 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ ซึ่งหาก กกต.วินิจฉัยว่าฝ่าฝืนก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.92(3) อันเป็นเหตุให้ถูกพรรคการเมืองนั้นถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้ต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป